The Siam Commercial Bank - SCB
วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555
ไทยพาณิชย์คว้ารางวัล THAILAND’S TOP CORPORATE BRAND VALUES 2012
ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้รับการประกาศให้เป็นบริษัทที่มีมูลค่าแบรนด์องค์กรสูงสุดในกลุ่มสถาบันการเงิน โดยมีมูลค่าแบรนด์กว่า 2 แสนล้านบาท จากผลการวิจัยของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง “การประเมินค่าและจัดอันดับแบรนด์องค์กรในประเทศไทย” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการวัดด้วยเครื่องมือแบบบูรณาการ ทั้งหลักการทางบัญชี การเงิน และการตลาด โดยมีคุณกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เข้ารับรางวัล THAILAND’S TOP CORPORATE BRAND VALUES 2012 ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555
SCB ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม หุ้นกู้ด้อยสิทธิ 2 หมื่นล้านบาทขายเกลี้ยงภายใน 1 วัน
ธนาคารไทยพาณิชย์ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนที่จองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิจำนวน 20,000 ล้านบาทของธนาคารอย่างล้นหลาม จนสามารถจัดจำหน่ายได้ครบเต็มจำนวนเพียง 1 วัน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อความแข็งแกร่งของธนาคาร โดยการระดมเงินระยะยาวในครั้งนี้จะนับเป็นการเสริมความแข็งแกร่งในเงินกองทุนขั้นที่ 2 ของธนาคาร เพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อและธุรกิจในอนาคต
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารขอขอบคุณนักลงทุนที่ได้มอบความไว้วางใจในการจองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิ วงเงิน 20,000 ล้านบาท อายุ 12 ปี ที่ธนาคารได้เสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 5- 14 กันยายน 2555 ผ่านสาขาของธนาคารทั่วประเทศ จนทำให้ธนาคารสามารถจำหน่ายหุ้นกู้ได้ทั้งหมดก่อนกำหนด โดยใช้ระยะเวลาเพียง 1 วัน สะท้อนให้เห็นความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อความแข็งแกร่งของธนาคารทั้งทางด้านฐานะทางการเงินที่มั่นคงและผลประกอบการที่เจริญเติบโตโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารจะมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าต่อไป ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายและตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ
สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิธนาคารไทยพาณิชย์ วงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาท อายุ 12 ปี ซึ่งปิดการจำหน่ายลงก่อนกำหนดนั้น มีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.65% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ชำระเงินต้นครั้งเดียว และครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันที่ 17 กันยายน 2567 โดยผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนดหลังครบ 7 ปีนับตั้งแต่วันออกหุ้นกู้ ได้รับการจัดอันดับจาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ระดับ AA- เป็นทางเลือกในการลงทุนระยะยาวที่มีผลตอบแทนแน่นอน ด้วยความเสี่ยงในระดับต่ำ และอัตราดอกเบี้ยสูง
ที่มา : จากเว็บไซต์http://www.scb.co.th/th/news/2012-09-06/subdepts_20120906 วันที่ 7 กย. 2555
วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2555
ธนาคารไทยพาณิชย์ จัดสัมมนา “พันธบัตรครบอายุ ลงทุนอะไรดี”
ธนาคารไทยพาณิชย์ จัดสัมมนา “พันธบัตรครบอายุ ลงทุนอะไรดี” เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจ ทิศทางการลงทุนทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ชญาวดี ชัยอนันต์ เศษฐกรฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย , สมิทธ์ พนมยงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายเงินฝากและการลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ , สุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนสายงานวิจัย บล. หลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ ,โชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.ไทยพาณิชย์ร่วมเสวนา โดยมีลูกค้าให้ความสนใจเข้าร่วมฟังกว่า 500 คน ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่
วันที่ 05 กันยายน 2555
SCB ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม หุ้นกู้ด้อยสิทธิ 2 หมื่นล้านบาทขายเกลี้ยงภายใน 1 วัน
ธนาคารไทยพาณิชย์ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนที่จองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิจำนวน 20,000 ล้านบาทของธนาคารอย่างล้นหลาม จนสามารถจัดจำหน่ายได้ครบเต็มจำนวนเพียง 1 วัน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อความแข็งแกร่งของธนาคาร โดยการระดมเงินระยะยาวในครั้งนี้จะนับเป็นการเสริมความแข็งแกร่งในเงินกองทุนขั้นที่ 2 ของธนาคาร เพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อและธุรกิจในอนาคต
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารขอขอบคุณนักลงทุนที่ได้มอบความไว้วางใจในการจองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิ วงเงิน 20,000 ล้านบาท อายุ 12 ปี ที่ธนาคารได้เสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 5- 14 กันยายน 2555 ผ่านสาขาของธนาคารทั่วประเทศ จนทำให้ธนาคารสามารถจำหน่ายหุ้นกู้ได้ทั้งหมดก่อนกำหนด โดยใช้ระยะเวลาเพียง 1 วัน สะท้อนให้เห็นความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อความแข็งแกร่งของธนาคารทั้งทางด้านฐานะทางการเงินที่มั่นคงและผลประกอบการที่เจริญเติบโตโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารจะมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าต่อไป ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายและตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ
สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิธนาคารไทยพาณิชย์ วงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาท อายุ 12 ปี ซึ่งปิดการจำหน่ายลงก่อนกำหนดนั้น มีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.65% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ชำระเงินต้นครั้งเดียว และครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันที่ 17 กันยายน 2567 โดยผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนดหลังครบ 7 ปีนับตั้งแต่วันออกหุ้นกู้ ได้รับการจัดอันดับจาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ระดับ AA- เป็นทางเลือกในการลงทุนระยะยาวที่มีผลตอบแทนแน่นอน ด้วยความเสี่ยงในระดับต่ำ และอัตราดอกเบี้ยสูง
ที่มา http://www.scb.co.th/th/news/2012-09-06/subdepts_20120906
วันที่ 06 กันยายน 2555
ที่มา http://www.scb.co.th/th/news/2012-09-06/subdepts_20120906
วันที่ 06 กันยายน 2555
วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555
สรุปข่าว ไทยพาณิชย์โชว์ผลงานยุทธศาสตร์ Customer First สร้างความสำเร็จครองใจลูกค้าบุคคลทุกเซกเม้นต์
จากข่าวแสดงให้เห็นว่า
ธนาคารวางเป้าหมายในการเป็นธนาคารที่ครองใจลูกค้าในทุกกลุ่มและมีการดูแลเซกเมนต์ลูกค้าให้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น โดยมีการศึกษาพฤติกรรมและความต้องการทางการเงินของแต่ละกลุ่มเพื่อสามารถคิดค้นและแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ทางการเงิน ทั้งยังมีการนำแนวคิดการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็น Total Solution เข้ามาเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า ผสานจุดแข็งด้วยการผนึกกำลังกลุ่มไทยพาณิชย์มอบผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ครบวงจรทั้งสินเชื่อ การลงทุน และประกันชีวิต นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาช่องทางสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างประสบการณ์อีกระดับในการติดต่อสาขา โดยมีการสำรวจความเห็นจากลูกค้าทั่วไปเกี่ยวกับการติดต่อสาขาในภาคธนาคาร พบว่าลูกค้ามองว่าการติดต่อสาขามีความยุ่งยากอยู่ 3 ประการ ได้แก่ คิวที่ยาวเกินไป ความยุ่งยากในการกรอกฟอร์ม และ การเสนอขายผลิตภัณฑ์ที่ไม่ตรงกับความต้องการในขณะนั้น โดยธนาคารได้นำความเข้าใจเหล่านี้มาปรับปรุงยกระดับการให้บริการ อาทิ ล่าสุดธนาคารได้แนะนำบริการ Formless หรือฝาก-ถอน-โอน ไม่ต้องกรอกฟอร์ม ซึ่งช่วยลดความล่าช้าในการกรอกฟอร์มที่ลูกค้าเห็นว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยากได้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งปรับปรุงบริการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ธนาคารพาณิชย์เป็นธุรกิจบริการ ดังนั้น เป้าหมายของการบริการคือยึดความ พึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก การเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานทั้งหมดที่เกิดขึ้นจึงต้องมุ่งเน้นไปที่จุดนี้ ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์ก็สามารถตอบโจทย์ในด้านการบริการโดยเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Consumer centric) ได้เป็นอย่างดี โดยมีการให้ความสำคัญใน 3 ด้านหลัก คือ
การครองใจลูกค้า
การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงตามความต้องการในช่วงเวลาที่เหมาะสม
การพัฒนาช่องทางสาขาและศักยภาพของบุคลากร
วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555
กกร.จัดสัมมนา 2012 Thailand Investment Environment : Maximizing the AEC Opportunity”
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย ร่วมด้วยหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย จัดงานสัมมนา 2012 Thailand Investment Environment : Maximizing the AEC Opportunity” เพื่อร่วมหารือถึงปัจจัยการลงทุนในประเทศไทยปี 2555 และแนวทางแห่งการเพิ่มโอกาสให้กับไทยเพื่อเดินหน้าสู่ประชาคมอาเซียน ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ โดยมีชาติศิริ โสภณพนิช ประธานกรรมการ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และประธานสมาคมธนาคารไทยกล่าวต้อนรับคณบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดงาน ทั้งนี้ คุณกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมให้การต้อนรับ
วันที่ 15 สิงหาคม 2555
ไทยพาณิชย์สนับสนุนทางการเงินเพื่อพัฒนาโครงการ “กันยารัตน์ เลควิวล์ คอนโดมิเนียม” คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์แห่งแรกในภาคอีสาน
นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายลูกค้าขนาดใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ และ นางสาวดารุณี คามวัลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทในเครือกันยารัตน์ กรุ๊ป ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินมูลค่า 409.5 ล้านบาท เพื่อพัฒนา โครงการ “กันยารัตน์ เลควิวล์ คอนโดมิเนียม และอเวนิวมอลล์” โครงการคอนโดมิเนียมพักอาศัยระดับไฮเอนด์แห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ริมบึงแก่นนคร จังหวัดขอนแก่น สร้างขึ้นเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และรองรับความต้องการด้านที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจที่ขยายตัวสูง
วันที่ 27 สิงหาคม 2555
บริษัท ซีเค พาวเวอร์ แต่งตั้งไทยพาณิชย์เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด ได้ลงนามแต่งตั้ง ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เคทีบี แอดไวซ์เซอรี่ จำกัด บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเตรียมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งนี้บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด ถือเป็นบริษัทนำร่องสำหรับธุรกิจที่มีแผนขยายกิจการไปในต่างประเทศ ให้สามารถใช้ประโยชน์จากตลาดทุนเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้เติบโตในระยะยาว
โดยมี คุณปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด คุณกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) คุณกิตติยา โตธนะเกษม ประธานกรรมการ บริษัท เคทีบี แอดไวซ์เซอรี่ จำกัด คุณประเสริฐ ภัทรดิลก กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทแอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด ร่วมลงนาม ได้รับเกียรติจาก คุณสมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และคุณจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมแสดงความยินดี
ที่มา http://www.scb.co.th/th/news/2012-08-17/nws_120817
วันที่ 17 สิงหาคม 2555
ไทยพาณิชย์โชว์ผลงานยุทธศาสตร์ Customer First สร้างความสำเร็จครองใจลูกค้าบุคคลทุกเซกเม้นต์
ธนาคารไทยพาณิชย์สานต่อความเป็นผู้นำในธุรกิจลูกค้าบุคคล ดำเนินกลยุทธ์ “Customer First” สร้างความสำเร็จต่อเนื่องบุกตลาดครึ่งปีหลัง วางแผนครองใจลูกค้าระยะยาวด้วยการยกระดับการให้บริการลูกค้าในทุกมิติ ตั้งแต่พลิกโฉมเริ่มให้บริการในลักษณะที่ปรึกษาทางการเงิน มอบโซลูชันผลิตภัณฑ์ทางการเงินครบวงจรตามความต้องการของลูกค้าในทุกรูปแบบ รวมทั้งพัฒนาศักยภาพของพนักงานสู่การเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Consultant) เป็นคู่คิดทางการเงินที่รู้จริง รู้ใจ และให้คำปรึกษาได้อย่างมืออาชีพ และเพิ่มศักยภาพทั้งช่องทางสาขาและ E-Channel เพื่อมอบบริการที่ง่ายและสะดวกสบายขึ้น ตั้งเป้าครองใจลูกค้าในทุกเซกเม้นต์และตอกย้ำตำแหน่งผู้นำในธุรกิจลูกค้าบุคคล
พฤติกรรมและความต้องการทางการเงินของแต่ละกลุ่มเพื่อสามารถคิดค้นและแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ทางการเงิน ทั้งยังมีการนำแนวคิดการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็น Total Solution เข้ามาเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า ผสานจุดแข็งด้วยการผนึกกำลังกลุ่มไทยพาณิชย์มอบผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ครบวงจรทั้งสินเชื่อ การลงทุน และประกันชีวิต นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาช่องทางสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างประสบการณ์อีกระดับในการติดต่อสาขา โดยมีการสำรวจความเห็นจากลูกค้าทั่วไปเกี่ยวกับการติดต่อสาขาในภาคธนาคาร พบว่าลูกค้ามองว่าการติดต่อสาขามีความยุ่งยากอยู่ 3 ประการ ได้แก่ คิวที่ยาวเกินไป ความยุ่งยากในการกรอกฟอร์ม และ การเสนอขายผลิตภัณฑ์ที่ไม่ตรงกับความต้องการในขณะนั้น โดยธนาคารได้นำความเข้าใจเหล่านี้มาปรับปรุงยกระดับการให้บริการ อาทิ ล่าสุดธนาคารได้แนะนำบริการ Formless หรือฝาก-ถอน-โอน ไม่ต้องกรอกฟอร์ม ซึ่งช่วยลดความล่าช้าในการกรอกฟอร์มที่ลูกค้าเห็นว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยากได้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งปรับปรุงบริการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สำหรับในส่วนของพนักงานและการขายนั้น ธนาคารได้พัฒนาศักยภาพของบุคลากรเข้าสู่การเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน หรือ Financial Consultant ที่สามารถให้คำปรึกษาทางด้านการเงินและการลงทุนให้แก่ลูกค้าได้อย่างมืออาชีพ โดยพนักงานที่จะเป็น Financial Consultant ได้นั้นจะต้องเป็นผู้มีประสบการณ์ และผ่านการอบรมในหลักสูตร Certified Financial Planner (CFP) ร่วมกับหลักสูตรที่ธนาคารได้พัฒนาขึ้น นอกจากนี้ ยังได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการวางแผนทางการเงินในรูปแบบ Multi Channel Sales and Service (MSS) ที่จะทำให้พนักงานทราบถึงความต้องการและทำความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับลูกค้าเฉพาะรายและสามารถแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมได้ในทันที ทั้งนี้ ธนาคารมีการลงทุนทางด้านการฝึกอบรมพนักงานและเทคโนโลยีนี้กว่า 1 พันล้านบาท และยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกของกลุ่มธุรกิจลูกค้าบุคคลธนาคารไทยพาณิชย์นั้น ธนาคารยังครองความเป็นหนึ่งในธุรกิจลูกค้าบุคคล โดยมีสินเชื่อรวมเติบโตกว่า 28% คิดเป็นสินเชื่อคงค้างรวม 5.63 แสนล้านบาท และธนาคารยังคงมุ่งมั่นมอบบริการที่สะดวกสบายให้ลูกค้าด้วยเครือข่ายขายสาขาที่มากที่สุดถึง 1,118 สาขา และตู้เอทีเอ็ม 8,590 ตู้ ครอบคลุมพื้นที่สำคัญทั่วประเทศเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย รวมทั้งช่องทางการติดต่อหลากหลายทั้งศูนย์บริการลูกค้าและช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งธนาคารจะมีการปรับเปลี่ยนรูปโฉมของสาขาและการให้บริการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
ที่มา : วันอังคารที่ 28 สิงหาคม 2555 จากเว็บไซต์ http://www.scb.co.th/th/news/2012-08-27/nws_120827_customer_first
วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555
สรุปข่าว ไทยพาณิชย์ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2 คงแนวโน้มการเติบโตในระดับสูง
จากงบการเงินที่เปิดเผยมาพบว่าการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิ 23.9% ในไตรมาสที่ 2 เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเป็นหลัก
รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ เพิ่มขึ้น 20.9% จากไตรมาส 2/2554 มาอยู่ที่ 15 พันล้านบาทในไตรมาสที่ 2/2555 ซึ่งนับเป็นการขยายตัวที่สูงสุดของธนาคาร อันเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่ออย่างมากถึง 20.2% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี ที่แล้ว และการเพิ่มขึ้นอย่างมากของผลตอบแทนด้านสินเชื่อและจากการลงทุนของธนาคาร การขยายตัวของสินเชื่อที่สูงกว่าตลาดมาจาก 3 ส่วน ได้แก่ สินเชื่อ SME สินเชื่อเคหะ และ สินเชื่อรถยนต์ ซึ่งธนาคารได้มีการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาจากการที่ลูกค้ามีความต้องการในสินเชื่อดังกล่าวในระดับสูงเกินคาดหมาย ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.22% สูงกว่าไตรมาสที่ผ่านมา
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 19.4% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากการเติบโตที่แข็งแรงต่อเนื่องของรายได้จากธุรกิจประกัน (เพิ่มขึ้น 42.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว) กำไรจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรต และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการที่สูงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทประกันชีวิตที่ธนาคารถือหุ้นอยู่ 94.7% ยังคงมีผลประกอบการที่สูงกว่าตลาดโดยรวมอันเป็นผลจากการขายผ่านเครือข่ายสาขาที่แข็งแรงของธนาคาร
คุณภาพสินทรัพย์ ยังปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องแม้มีปัจจัยลบของสภาวะเศรษฐกิจโลกและมีผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วม ในปีที่ผ่านมาอยู่บ้าง ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 2/2555 สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ลดลงมาอยู่ที่ 2.25% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2540 (ลดลงมาจากระดับ 2.69% ณ สิ้นไตรมาส 2/2554 และ 2.39% ณ สิ้นไตรมาส 1/2555)
ดังนั้นเห็นได้ว่าการดำเนินงานของธนาคารไทยพาณิชย์นั้นตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงไตรมาสที่ 2/2555นี้แสดงถึงการที่ธนาคารมี ยุทธศาสตร์ทางธุรกิจที่ถูกต้อง มีรูปแบบการทำธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ และมีการนำไปปฏิบัติในระดับชั้นนำ ความแข็งแกร่งเหล่านี้ถือเป็นตัวผลักดันหลักในการทำงานของกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อมุ่งก่อให้เกิดความผูกพันอย่างลึกซึ้งในกลุ่มลูกค้าและพนักงานของธนาคาร อันเป็นปัจจัยหลักสำคัญที่จะทำให้ธนาคารเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างมูลค่าเพิ่ม แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)