...ยินดีต้อนรับสู่บล็อกที่อัพเดตข่าวสารของธนาคารไทยพาณิชย์อย่างครอบคลุม จัดทำโดยนศ.หลักสูตรการเงิน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต...

วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สรุปข่าว เตือนวิกฤตหนี้ยูโรโซนกดดันส่งออกไปยุโรป (23-29 ก.ค.55)

            จากการที่เศรษฐกิจของยุโรปที่ชะลอตัวลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตและการจำหน่ายสินค้าในหลายประเทศที่เป็นตลาดสำคัญของไทย ทั้งญี่ปุ่น สหภาพยุโรป เอเชียใต้ เกาหลีใต้ ไต้หวัน รัสเซียที่นำเข้าสินค้าจากไทยลดลง โดยเฉพาะสินค้าในหมวดเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรที่ปรับตัวลดลงแรง ถือว่าเป็นการลดลงที่ไม่มากนัก หากเศรษฐกิจยุโรปไม่แย่ลงไปกว่าเดิม สถานการณ์โดยรวมของเศรษฐกิจสามารถดูได้จากดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจ GDP มีสูตรการคิดคำนวณดังนี้
                                                GDP = C + I + G + (X – M) 
ประกอบด้วย 4 ส่วนหลักๆ คือ การบริโภค (C) 
                                                การลงทุน(I) 
                                                การใช้จ่ายของภาครัฐ (G) 
                                                การส่งออก (X) 
                                                นำเข้า (M)
สำหรับการส่งออกสินค้าใน ช่วง 6 เดือนแรก พบว่า หมวดสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร 9.1%  หมวดสินค้าอุตสาหกรรมส่งออกลดลง 3.6% 
            อย่างไรก็ดี การนำเข้าที่ยังเร่งตัวขึ้นจากหลายปัจจัย อาทิ การปรับตัวลงของราคาสินค้านำเข้าบางหมวด โดยเฉพาะสินค้าโภคภัณฑ์ และการเพิ่มการนำเข้าวัตถุดิบที่สอดคล้องกับทิศทางที่ดีขึ้นของภาคการผลิตที่กลับสู่ภาวะปกติแล้วในหลายอุตสาหกรรม  เพราะฉะนั้นดุลการค้าของไทยมีแนวโน้มอาจจะกลับมาดีไทยในช่วงปีนี้

วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ธนาคารไทยพาณิชย์ฉลองเปิดสาขาที่ 1,111


120719-branch-1111.jpg

       ธนาคารไทยพาณิชย์เปิดที่ทำการสาขา 1,111 ณ ศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัยเพื่ออำนวย
ความสะดวกแก่ประชาชนย่านสุขุมวิทในการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างครบวงจร นับเป็น
ธนาคารที่มีเครือข่ายสาขามากที่สุดในประเทศ  ฉลองครบ1,111 สาขา ด้วยการมอบของขวัญ
พิเศษให้แก่ลูกค้า 1,111 ท่านแรกที่มาทำธุรกรรม โดยในปีนี้ธนาคารมีแผนเปิดสาขาให้บริการ
ประชาชนเพิ่ม 50 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ

วันที่ 18 ก.ค. 55
เว็บไซต์ http://www.scb.co.th/th/news/2012-07-18/120717_branch_1111

วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ไทยพาณิชย์ และ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย จัดอบรมให้ความรู้การระดมทุน หัวข้อ “หุ้นกู้ไทย: โอกาสการระดมทุนท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลก”

nws-120713-sh-01.jpg
      
 นายอาทิตย์ นันทวิทยา รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้การต้อนรับ ดร. บัณฑิต นิจถาวร ประธานกรรมการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ในการบรรยายให้ความรู้ “หุ้นกู้ไทย: โอกาสการระดมทุนท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลก” แก่บริษัทและผู้ที่สนใจทั่วไป เพื่อส่งเสริมให้มีความเข้าใจในกลยุทธ์การระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้ได้อย่างมีประสิทธิภาและก้าวทันการเปลี่ยนแปลงในตลาดตราสารหนี้ในปัจจุบัน ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่


ไทยพาณิชย์ ผนึกกำลัง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเวทีสัมมนา “วิกฤตเศรษฐกิจยุโรปและจีน... ผลกระทบเศรษฐกิจโลกต่อการส่งออกไทย”

nws-120713-eu-01.jpg
        นายอาทิตย์ นันทวิทยา รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่  ธนาคารไทยพาณิชย์ และ นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมเปิดงานสัมมนาในหัวข้อ “วิกฤตเศรษฐกิจยุโรปและจีน... ผลกระทบเศรษฐกิจโลกต่อการส่งออกไทย” โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในส่วนของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ และจากภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ของ ส.อ.ท. ร่วมให้ข้อมูลความรู้เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถวิเคราะห์ศักยภาพอุตสาหกรรมไทย ท่ามกลางภาวะผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ รวมถึงการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการไทยให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยงานสัมมนาจัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ณ ห้องเรนโบว์ โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ ปาร์ค สุขุมวิท 22


ที่มา http://www.scb.co.th/th/news/2012-07-13/120713_eu

ไทยพาณิชย์ออกเงินฝากประจำ 11 เดือน แถม 11 วัน พร้อมเงินฝากประจำ 7 เดือน ให้เลือกออม รับดอกเบี้ยสูงโดนใจ

20120713-Deposit-01.jpg



     ธนาคารไทยพาณิชย์ออกผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากประจำพิเศษ 11 เดือน และเพิ่มจำนวนวันที่ใช้คำนวณดอกเบี้ยแถมให้อีก 11 วัน  รวมอัตราดอกเบี้ยที่ลูกค้าจะได้รับเมื่อฝากครบกำหนด  3.46% ต่อปี พร้อมออกบัญชีเงินฝากประจำพิเศษ 7 เดือน มอบดอกเบี้ย 3.30% ต่อปี ให้ประชาชนเลือกออมได้แล้วเริ่มตั้งแต่ 14 ก.ค.นี้ทุกสาขาทั่วประเทศ
      นายสมิทธ์ พนมยงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายผลิตภัณฑ์เงินฝากและการลงทุน เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีหลัง 2555 นี้ เศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ในภาวะผันผวน การออมยังคงเป็นการลงทุนที่ประชาชนให้ความนิยม เพราะให้ผลตอบแทนที่มั่นคง ธนาคารพาณิชย์จึงยังคงแข่งขันระดมเงินฝากกันอย่างต่อเนื่อง โดยแนวโน้มความต้องการของลูกค้าเงินฝาก ยังต้องการออมเงินในระยะเวลาที่ไม่ยาวเกินไปแต่ได้ดอกเบี้ยสูง ล่าสุด ธนาคารไทยพาณิชย์จึงได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำแบบพิเศษ 11 เดือน มาเพื่อรองรับความต้องการลูกค้าโดยใช้ กลยุทธ์การเพิ่มจำนวนวันที่ใช้คำนวณดอกเบี้ยให้อีก 11 วัน ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากไม่ปรับตัวจนส่งผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ นับเป็นการช่วยให้ลูกค้าเงินฝากได้รับประโยชน์จากผลตอบแทนดอกเบี้ยที่น่าพอใจโดยไม่กระทบต่อลูกค้าสินเชื่อของธนาคาร รวมทั้งได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำแบบพิเศษ 7 เดือน มาเพื่อรองรับตลาดในช่วงที่ประชาชนยังต้องรอติดตามนโยบายด้านคุ้มครองเงินฝากต่อไปอีกด้วย ทั้งนี้ คาดว่าผลิตภัณฑ์เงินฝากใหม่นี้ จะได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างดี และภายในสิ้นปี คาดการณ์ว่าธนาคารจะมียอดเงินฝากมากกว่า 1.6 ล้านล้านบาท"
     สำหรับ "เงินฝากประจำพิเศษ 11 เดือน" อัตราดอกเบื้ยพื้นฐาน 3.35% ต่อปี และธนาคารเพิ่มจำนวนวันที่ใช้คำนวณดอกเบี้ยให้อีก 11 วัน ซึ่งจะทำให้ผู้ฝากได้สิทธิประโยชน์จากการคำนวณอัตราดอกเบี้ย แต่ลูกค้าฝากเพียง 11 เดือนตามปฏิทินเท่าเดิม ช่วยให้ผู้ฝากได้รับผลตอบแทนมากขึ้นอีก 0.11% ต่อปี รวมผลตอบแทนเฉลี่ยทั้งโครงการเป็น 3.46% ต่อปี เปิดบัญชีขั้นต่ำ 50,000 บาท ฝากเพิ่มครั้งต่อไปขั้นต่ำ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อบัญชี จ่ายดอกเบี้ยแบบทบต้นเมื่อครบกำหนด และในส่วนของ “เงินฝากประจำพิเศษ 7 เดือน” ให้ผลตอบแทนสูง ด้วยอัตราดอกเบี้ย 3.30% ต่อปี เปิดบัญชีขั้นต่ำ 1 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ยแบบทบต้นเมื่อครบกำหนด สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าไทยพาณิชย์ โทร. 02-777-777


ที่มา  http://www.scb.co.th/th/news/2012-07-13/120712_deposit


วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ไทยพาณิชย์จับมือเมเจอร์ จัดเต็มโปรโมชั่นจองซื้อคอนโดในงาน Highlight of High Living 2012




                                                    nwsPro-090755-1.jpg



           ธนาคารไทยพาณิชย์ เตรียมมอบโปรโมชั่นพิเศษแบงก์เดียวในงาน Highlight of High Living 2012 ที่จัดโดย บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ทั้งโปรโมชั่นสินเชื่อบ้าน ผ่อน 0% นาน 1 ปี ฟรีค่าจดจำนอง และสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ สำหรับผู้จองคอนโดในเครือเมเจอร์ภายในงาน สามารถผ่อนชำระเงินจองหรือเงินทำสัญญา กับบริการ “SCB ดีจัง” 0% นาน 6 เดือน พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 15,000 บาท เตรียมพบกับข้อเสนอที่ดีที่สุดแห่งปีในงาน Highlight of High Living 2012 ที่จะจัดขึ้นระหว่าง 11 - 15 กรกฎาคม 2555 ณ สยามพารากอน


แจ้งการจดทะเบียนแปลงหุ้นบุริมสิทธิเป็นหุ้นสามัญ


             ตามที่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิขอแปลงหุ้นบุริมสิทธิเป็นหุ้นสามัญของธนาคาร เมื่อวันที่ 29  มิถุนายน 2555  จำนวน 64,561 หุ้น ธนาคารได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงเฉพาะในส่วนการแปลงหุ้นบุริมสิทธิเป็นหุ้นสามัญต่อกระทรวงพาณิชย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนี้

                ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2555 ธนาคารมีทุนชำระแล้ว                     33,991,921,980  บาท
                โดยมีจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด                                          3,399,192,198  หุ้น
                 แยกออกเป็น         หุ้นบุริมสิทธิ                                                     5,565,454 หุ้น
                                                 หุ้นสามัญ                                                          3,393,626,744 หุ้น
      
ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้พิจารณารับหุ้นสามัญส่วนที่เพิ่ม โดยให้เริ่มทำการซื้อขายได้ ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2555 เป็นต้นไป

วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สรุปข่าวเด่น ประจำสัปดาห์ครั้งที่ 1 (10-17 มิ.ย.55)


ไทยพาณิชย์มองต้นปี'56ดอกเบี้ยมีโอกาสขึ้น


        สรุปดังนี้   EIC รายงานว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3.0% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 13 มิถุนายน 2555 
      จากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจยุโรปที่เกิดขึ้น รวมไปถึงในครึ่งปีหลังอาจมีปัญหาจากอัตราเงินเฟ้อเนื่องจากอัตราการจ้างขั้นต่ำและราคาสินค้าเพิ่มมากขึ้น อาจจะส่งผลให้ในปี 2013 อัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นจาก โดยในปีนี้ที่ ธปท.จะให้คงแค่ 3.0% จนถึงปลายปีหากสถานการณ์ทางยุโรปไม่รุนแรงเพิ่มขึ้น

อัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่ผ่านมา

ที่มา ธนาคารแห่งประเทศไทย
อัตราดอกเบี้ยนโยบาย 
ในการดำเนินนโยบายการเงินภายใต้กรอบเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ กรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบาย
เป็นเครื่องมือหลักในการส่งสัญญาณนโยบายการเงิน โดยในช่วงที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 16 มกราคม 2550 กนง. ได้ใช้อัตรา
ดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร 14 วัน (RP 14 วัน) เป็นดอกเบี้ยนโยบาย ต่อมาตั้งแต่ 17 มกราคม 2550 กนง. ได้ เปลี่ยนมาใช้
อัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร 1 วัน (RP 1 วัน) แทน
การเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยจากอัตราดอกเบี้ย  RP 14 วัน มาเป็น RP 1 วัน มีสาเหตุสำคัญดังนี้
  1. ปทกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น term ยาวกว่า วัน แต่เข้าทำธุรกรรมในตลาดทุกวัน 
  2. ปักษ์การดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของสถาบันการเงิน (Reserve Maintenance Period) ไม่สอดคล้องกับ
  3. กำหนดการประชุม กนง. ส่งผลให้บางปักษ์คร่อมการประชุม กนง.
          ดังนั้น ในกรณีที่ตลาดมีการคาดการณ์อย่างชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ยนโยบายว่าจะมีการปรับขึ้นหรือปรับลดลง
การดำเนินการตามข้อ 1-2 ข้างต้นจะทำให้เกิดปัญหาการกระจุกตัวหรือไม่มีการลงทุนใน RP14 วัน ซึ่งจะส่งผลในทางกลับ
กันต่อการลงทุนใน RP1 วัน ทำให้อัตราดอกเบี้ยมีความผันผวนและอัตราดอกเบี้ยในตลาดพันธบัตร(term structure) ถูกบิดเบือน
ในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้น ธปท. จะเน้นการทำธุรกรรมในลักษณะ fixed rate ที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายในธุรกรรม
 bilateral repo ในช่วงเช้าของวัน (โดยสถาบันการเงินเป็นผู้เสนอปริมาณที่ต้องการจะกู้หรือลงทุน) และหาก ธปท. ต้องการทำ
ธุรกรรมระยะอื่นนอกเหนือจาก 1 วัน ธปท. จะทำธุรกรรมในลักษณะ variable rate tender(โดยสถาบันการเงินเป็นผู้เสนอทั้ง
ปริมาณและราคาที่ต้องการจะกู้หรือลงทุน)  ธปท. ยึดเป้าหมายปริมาณเป็นหลักและให้สถาบันการเงินกำหนดอัตราดอกเบี้ยตามภาวะ
และการคาดการณ์ของตลาด อย่างไรก็ดี เพื่อไม่ให้มีธุรกรรม fixed rate ที่คร่อมการประชุม กนง. ธปท. จะหลีกเลี่ยงการทำ
ธุรกรรม bilateral repo ระยะ 1 วัน ในช่วงเช้าของวันที่มีการประชุม กนง. เนื่องจากโดยปกติแล้ว ธปท. จะแถลงผลการประชุม
กนง. ในช่วงบ่ายตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นต้นมา ธปท. ได้ใช้อัตราดอกเบี้ยธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตรแบบทวิภาคี
 (Bilateral Repurchase Transactions) ระยะ 1 วันเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแทนอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตร
ระยะ 1 พร้อมกับปิดตลาดซื้อคืนพันธบัตรของธนาคารแห่งประเทศไทยในวันดังกล่าว
ที่มา ธนาคารแห่งประเทศไทย

วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

SCB ชวนกันทำดีร่วมใจปลูกป่าชายเลน ณ วนอุทยานปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

     สายลูกค้าขนาดใหญ่ นำคณะผู้บริหารและพนักงานจิตอาสา จำนวนกว่า 240 คน ขยายผลโครงการ SCB ชวนกันทำดี ด้วยการร่วมมือร่วมใจกันปลูกป่าชายเลน (ต้นโกงกาง) จำนวน 500 ต้น ณ วนอุทยานปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา

     สายลูกค้าขนาดใหญ่ ร่วมเสริมสร้างค่านิยมแห่งการแบ่งปันตามนโยบายการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม ของธนาคาร โดยในครั้งนี้ได้จัดกิจกรรม SCB ชวนกันทำดี ปลูกป่าชายเลน มีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกป่าทดแทนในส่วนที่ได้ถูกตัดและทำลายไปอันเป็นสาเหตุ หลักทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่เช่นในปี 2554 ที่ผ่านมา รวมถึงเพื่อเป็นการช่วยเพิ่มพื้นที่ป่าและฟื้นฟูสภาพป่าให้สมบูรณ์ขึ้นรักษา ความสมดุลของระบบนิเวศ นับเป็นแหล่งวางไข่และที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำจำนวนมากทำให้เพิ่มปริมาณ สัตว์น้ำ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญได้เป็นอย่างดี อันจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน โดยมี คุณสารัชต์ รัตนาภรณ์, คุณกฤษณ์ อรรถกฤษณ์ และ คุณภาสพรรณ สุวรรณจินดา ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส เข้าร่วมกิจกรรม และมี คุณสมศักดิ์ กรีธาธร หัวหน้าวนอุทยานปราณบุรี เป็นผู้รับมอบเงินสนับสนุนการจัดกิจกรรม

     ธนาคาร ขอขอบคุณและขอชื่นชมพนักงานทุกท่านที่ได้ร่วมสร้างสรรค์ประโยชน์เพื่อสังคม และขยายผลการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสังคม เป็นแบบอย่างในการรณรงค์ให้เห็นถึงคุณค่าของป่าชายเลนต่อไป



วันที่ 6 กรกฎาคม 2555

ที่มา : http://www.scb.co.th/csr/th/news_detail.php?id=242

วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ไทยพาณิชย์คว้ารางวัลธนาคารแห่งปี 2555

120706-money-banking-award.jpg
        
     ธนาคารไทยพาณิชย์ รับรางวัล  “ธนาคารแห่งปี 2555”    จากวารสารการเงินธนาคาร ซึ่งเป็นรางวัลเกียรติยศที่มอบให้กับธนาคารพาณิชย์ที่มีผลประกอบการและการบริหารจัดการยอดเยี่ยม  พร้อมกันนี้ยังได้รับรางวัลดีเด่น “บูธสวยงาม งานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 12”  (Money Expo) ประเภทพื้นที่ขนาดใหญ่ ในงาน “Money & Banking Awards 2012” โดยมีคุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคุณสันติ  วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานและบรรณาธิการ วารสารการเงินธนาคาร ร่วมเป็นประธานมอบรางวัล ณ ห้องบอลรูม โรงแรมโซฟิเทล โซ แบงคอก กรุงเทพฯ

         ทั้งนี้ คุณกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และคุณสมิทธ์  พนมยงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายผลิตภัณฑ์เงินฝากและการลงทุน ให้เกียรติร่วมรับรางวัลดังกงล่าว

ที่มา 06 กรกฏาคม 2555

ไทยพาณิชย์จับมือธนาคารเอกชนอันดับหนึ่งของพม่าพร้อมให้บริการธุรกรรมโอนเงินไปยังประเทศพม่า

120704-mou.jpg

           นายมาณพ เสงี่ยมบุตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจต่างประเทศ ธนาคารไทยพาณิชย์ และ มร. เนียว มินท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ ธนาคารคันบาวซา สหภาพพม่า (Kanbawza Bank Limited – KBZ) ร่วมลงนามในข้อตกลงความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างทั้ง 2 ธนาคาร โดยเริ่มจากความร่วมมือการให้บริการการโอนเงินจากประเทศไทยไปยังพม่า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับแรงงานชาวพม่าในประเทศไทยสามารถโอนเงินจากธนาคารไทยพาณิชย์ไปยังพม่าผ่านทางธนาคารคันบาวซา ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์เอกชนอันดับหนึ่งในประเทศพม่า มีเครือข่ายสาขาและเครื่องเอทีเอ็มมากที่สุด โดยเริ่มให้บริการโอนเงินแล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป 
            
            ทั้งนี้ การลงนามในข้อตกลงความเข้าใจครั้งนี้ ยังเป็นการวางกรอบความร่วมมือระหว่างธนาคารทั้งสองแห่งในการขยายบริการสำหรับธุรกิจอื่นๆ ต่อไป อันเป็นส่วนหนึ่งของการรองรับการเปิดตัวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) กรอบความร่วมมือดังกล่าวเป็นการแสดงถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และแสดงให้เห็นถึงชื่อเสียงและศักยภาพของธนาคารไทยพาณิชย์ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความเป็นเลิศ


ที่มา 05 กรกฏาคม 2555
เว็บไซต์ http://www.scb.co.th/th/news/2012-07-05/nws_KBZ_Strategic

ไทยพาณิชย์ให้การสนับสนุนธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ แก่กลุ่มบริษัทซันเอดิสันอย่างต่อเนื่อง

120704-SPP5.jpg

           นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ (กลาง) ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารไทยพาณิชย์ นายวรวิทย์ โพธิสุข (ซ้าย) รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจในประเทศ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป และ Mr. Ahmad Chatila(ขวา) กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MEMC Electronic Materials, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ กลุ่มบริษัทซันเอดิสัน ได้เข้าร่วมในพิธีลงนามซื้อขายหุ้น (Share Purchase Agreement) กิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ SPP5 ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด มีกำลังการผลิตขนาด 8 MW ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจพลังงานหมุนเวียนยังคงเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจหลักที่ธนาคารให้ความสำคัญ โดยธนาคารได้สนับสนุนเงินกู้และได้รับเลือกให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินกับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนของประเทศไทยอีกหลายโครงการ
 
            โครงการ SPP5 จัดเป็นโครงการล่าสุดต่อจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ SPP2, SPP3 และ SPP4 ที่กลุ่มบริษัท SunEdison ได้บรรลุข้อตกลงซื้อขายหุ้นร่วมกับ เอ็กโก กรุ๊ป โดยมีธนาคารเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการเสนอขายหุ้นในวงจำกัด (Private Placement) การบรรลุข้อตกลงซื้อขายหุ้นในครั้งนี้  ถือเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของธนาคารในการให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจรในรูปแบบ universal banking แก่เอ็กโก กรุ๊ป และกลุ่มบริษัท SunEdison ซึ่งถือเป็น strategic clients ที่สำคัญของธนาคาร และเป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารไทยพาณิชย์ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการด้วยวงเงิน 830 ล้านบาทในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ SPP5


ที่มา 05 กรกฏาคม 2555
เว็บไซต์ http://www.scb.co.th/th/news/2012-07-05/nws_SPP5

ไทยพาณิชย์ ผนึกกำลัง วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เตรียมให้บริการบัตรอิเล็กทรอนิกส์ SIAMTECH – SCB ID Card



120704-siamtech.jpg


            คุณภาสพรรณ สุวรรณจินดา (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายลูกค้าขนาดใหญ่ 5 กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ และ ผศ.ดร. จอมพงศ์ มงคลวนิช (ที่ 3 จากขวา)ผู้อำนวยการ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (สยามเทค) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงการใช้บริการบัตร SIAMTECH – SCB ID Card โดยธนาคารไทยพาณิชย์ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่รวมการให้บริการบัตรเงินสดและบัตรประจำตัวนักศึกษาของวิทยาลัยฯ ไว้ในบัตรเดียวกัน 


ที่มา วันที่ 05 กรกฏาคม 2555

วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ไทยพาณิชย์ผนึกกำลัง SCBLIFE เปิดเกมรุกตลาดประกันครึ่งปีหลัง คลอดประกัน “ออมคุ้มค่า 15/6” ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด


ไทยพาณิชย์ผนึกกำลัง SCBLIFE เปิดเกมรุกตลาดประกันครึ่งปีหลัง คลอดประกัน ออมคุ้มค่า 15/6ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด
              
              ธนาคารไทยพาณิชย์ผนึกบริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด มหาชน (SCBLIFE) เปิดตัวแบบประกันชีวิตใหม่ ประกันออมคุ้มค่า 15/6ชำระเบี้ยสั้น คุ้มครองนาน 15 ปี การันตีเงินคืนทุกปีสูงสุด 3 % คุ้มครองชีวิต พร้อมรับเงินคืนรวมสูงสุดถึง 257% ตอกย้ำความเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ประกันผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ (Bancassurance) มั่นใจเบี้ยรับรวมสิ้นปี 55 แตะ 32,000 ล้านบาท เตรียมจัดหนักรุกตลาดธุรกิจประกันครึ่งปีหลัง เจาะกลุ่มลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ด้วยการออกกรมธรรม์หลากรูปแบบ พร้อมเตรียมคลอดประกันภัยครอบคลุมภัยธรรมชาติและภัยพิบัติทุกชนิดได้ในเดือนนี้
             
           นายสมิทธ์  พนมยงค์  ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายเงินฝากและการลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า  ในช่วงครึ่งปีหลัง แนวโน้มความต้องการของลูกค้าส่วนใหญ่ยังนิยมการออมแบบระยะสั้น คุ้มครองนาน และให้ผลตอบแทนสูง ประกอบกับปัจจุบันเศรษฐกิจมีความผันผวน และมีความเสี่ยงใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ธนาคารจึงได้ร่วมมือกับ SCBLIFE พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทสะสมทรัพย์ คือ ออมคุ้มค่า 15/6ซึ่งคาดว่าจะเป็นการกระตุ้นตลาดช่วงครึ่งปีหลังให้คึกคัก และตอกย้ำความเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ประกันผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ โดยคาดว่าจะสามารถทำเบี้ยรับรวมในปี 2555 ซึ่งตั้งไว้ที่ 32,000 ล้านบาท ได้ตามเป้าหมาย ด้วยจุดแข็งด้านช่องทางการขายผ่านสาขาธนาคารที่มีมากที่สุดในประเทศกว่า 1,105 สาขา (ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม) และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
            
           นายวิพล วรเสาหฤท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ SCBLIFE กล่าวว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำตลาดแบงก์แอสชัวรันส์ โดยได้ร่วมมือแบงก์แม่ ในการพัฒนา และออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีคุณภาพ และให้ผลประโยชน์ที่คุ้มค่า เพื่อตอบสนองความต้องการ และความพึงพอใจสูงสุดของผู้บริโภค และเชื่อมั่นว่าผลตอบแทนที่สูง แน่นอ และโดดเด่น ของแบบประกันน้องใหม่อย่าง ออมคุ้มค่า 15/6จะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้สามารถแข่งขันในตลาดได้เป็นอย่างดี 
           
             สำหรับ ประกันออมคุ้มค่า 15/6นี้ โดนใจด้วยระยะเวลาการชำระเบี้ยสั้นเพียง 6 ปี คุ้มครองยาวนานถึง 15 ปี  รับผลตอบแทนแน่นอน และ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดอายุสัญญา รับเงินคืนสูงสุด 3% ต่อปี  โดยปีที่ 1-5 รับเงินคืน 2% ของทุนประกันภัย  และตั้งแต่ปีที่ 6-14 รับเงินคืน 3% ของทุนประกันภัย  และรับเงินคืน 220% ของทุนประกันภัย  ณ วันครบกำหนดสัญญา รวมรับผลประโยชน์เงินคืนสูงถึง 257% ของทุนประกันภัย นอกจากนี้ ความคุ้มครองยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดอายุสัญญาเช่นกัน  โดยปีที่ 1 -2 รับความคุ้มครอง 100% ของทุนประกันภัย  เพิ่มเป็น 200% ในปีที่ 3-5 และ 220% ในปีที่ 6-15 ทั้งนี้ เบี้ยประกันยังลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปีอีกด้วย โดยทุนประกันเริ่มต้นที่ 200,000 บาท และไม่จำกัดทุนประกันสูงสุด และรับประกันตั้งแต่อายุ 1 เดือน ถึง 70 ปี 
           
             นายสมิทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประกันออมคุ้มค่า 15/6  มุ่งจับกลุ่มเป้าหมายผู้รักการออมและการลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนแน่นอน ต่อเนื่อง และได้รับเงินก้อนเพื่อใช้จ่ายตามต้องการเมื่อครบอายุสัญญา โดยธนาคารวางแผนกระตุ้นการตลาดด้วยการออกแคมเปญโดนใจสำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันชีวิตกับธนาคารให้เลือกรับของกำนัลได้ตามใจ ทั้งบัตรกำนัลมูลค่าสูงสุด 60,000 บาท หรืออุปกรณ์สื่อสารอินเทรนด์ อาทิ iPhone 4s หรือ The New iPad พร้อมแคมเปญ อิ่มบุญ อิ่มท้อง อิ่มใจ @ ฮ่องกงสำหรับลูกค้าที่ลงทุนในประกันออมคุ้มค่า 15/6 ให้ได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่เพิ่มเติมด้วย  ทั้งนี้ ธนาคารพร้อมบริษัทในเครือจะยังคงมุ่งมั่นในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่แตกต่างกันไปทุกเพศ ทุกวัย โดยภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จะออกผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองโครงสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และทรัพย์สิน จากทุกภัย ทั้งภัยธรรมชาติ ภัยพิบัติ และโจรกรรม โดยครอบคลุมทั้งที่อยู่อาศัย และธุรกิจ อีกด้วย